Trenbolone
- Muscle Mass
- 17 ม.ค. 2567
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 27 ก.ย.

Trenbolone – ข้อมูลเพื่อการวิจัยด้านเพาะกาย
Trenbolone เป็นหนึ่งใน Anabolic Androgenic Steroids (AAS) ที่ทรงพลังมากที่สุด ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกเพื่อใช้ในด้านปศุสัตว์ แต่ต่อมากลายเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวางในการศึกษาเชิงวิจัยเกี่ยวกับ การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและการลดไขมัน จนได้รับฉายาว่า “King of Steroids”
สิ่งที่ทำให้ Trenbolone โดดเด่นกว่าสเตียรอยด์ชนิดอื่น คือความสามารถในการ สร้างกล้ามเนื้อแม้ในช่วง Cutting และในทางกลับกันก็ยัง ช่วยลดไขมันแม้อยู่ในช่วง Bulking ถือเป็นสารที่ถูกศึกษาในฐานะ “ครอบจักรวาล” ของวงการเพาะกาย
---
คุณสมบัติของ Trenbolone
จากรายงานและการศึกษาที่มี Trenbolone มีคุณสมบัติเด่นหลายด้าน ได้แก่:
🔹 สร้าง Muscle Mass ได้ในระยะเวลาอันสั้น
🔹 เพิ่มการเก็บกัก ไนโตรเจน → ส่งเสริมการสร้างกล้ามเนื้อ
🔹 กระตุ้น การสังเคราะห์โปรตีน
🔹 เสริมสร้าง พละกำลังและความแข็งแรง
🔹 มีคุณสมบัติคล้าย NPP หรือ Deca แต่โดดเด่นกว่าเพราะช่วยลดไขมันได้ด้วย
👉 คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ Trenbolone ถูกนำไปศึกษาในงานวิจัยทั้ง Cutting และ Bulking และได้รับความนิยมสูงในหมู่นักวิจัยด้านฟิตเนส
---
ประเภทของ Trenbolone ที่มักพบในตลาดวิจัย
Trenbolone มีหลายเอสเทอร์ (Ester) โดยที่นิยมศึกษามากที่สุดคือ:
1. Trenbolone Acetate (Tren A)
ออกฤทธิ์เร็ว → เห็นผลไว
ต้องใช้ถี่กว่า (ทุกวันเว้นวัน / EOD)
เหมาะสำหรับการทดลองวิจัยในผู้ที่ยังใหม่ต่อ Trenbolone เพราะ “มาไวไปไว” หากเกิดผลข้างเคียงสามารถหยุดและรอให้ยาออกจากร่างกายได้เร็ว
2. Trenbolone Enanthate (Tren E)
ออกฤทธิ์ช้ากว่า → พีคในเลือดช้ากว่า
ไม่ต้องใช้บ่อย (ประมาณ 2 ครั้ง/สัปดาห์)
มักถูกใช้ในการวิจัยระยะยาว เพราะให้ระดับที่คงที่มากกว่า
---
ผลข้างเคียงที่มักถูกรายงาน
แม้ Trenbolone จะถูกขนานนามว่าเป็น “สุดยอดสเตียรอยด์” แต่รายงานวิจัยจำนวนมากก็กล่าวถึงผลข้างเคียงที่ควรระวัง เช่น:
หงุดหงิด ก้าวร้าวง่าย (แต่ยังอยู่ในระดับควบคุมได้)
ส่งผลต่อระดับ คอเลสเตอรอล
เหงื่อออกตอนกลางคืน
นอนไม่หลับ (บางรายใช้ Melatonin หรือ hGH ช่วยบรรเทา)
สิวขึ้น หากไม่รักษาความสะอาด
👉 ด้วยเหตุนี้ งานวิจัยหลายชิ้นจึงมักเริ่มจาก Tren A (แบบสั้น) ก่อน เพื่อให้ประเมินผลข้างเคียงได้ง่ายกว่า Tren E (แบบยาว)
---
การประยุกต์ใช้ในการวิจัย
1. ช่วง Bulk Research
มักพบการออกแบบวิจัยที่ใช้ High Test / Low Tren
เช่น รายงานการใช้ Testosterone 500–600 mg/สัปดาห์ ร่วมกับ Trenbolone 300 mg/สัปดาห์ เพื่อศึกษาการเพิ่มกล้ามเนื้อควบคู่กับการคงไขมันต่ำ
2. ช่วง Cut Research
มักพบการออกแบบวิจัยที่ใช้ High Tren / Low Test
เช่น Testosterone 250–300 mg/สัปดาห์ ร่วมกับ Trenbolone 400–500 mg/สัปดาห์ เพื่อศึกษาการลดไขมันโดยไม่เสียกล้ามเนื้อ
⚠️ หมายเหตุ: ปริมาณที่ยกมาข้างต้นเป็น ข้อมูลจากรายงานการวิจัย เท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการใช้จริง
---
สรุป
Trenbolone ถูกยกให้เป็นหนึ่งในสเตียรอยด์ที่ทรงพลังที่สุด และถูกเรียกว่า “King of Steroids” เนื่องจากคุณสมบัติที่สามารถทั้ง เพิ่มมวลกล้ามเนื้อและลดไขมันได้ในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วง Cutting หรือ Bulking จึงได้รับความนิยมอย่างสูงในการวิจัยด้านฟิตเนสและเพาะกาย
> 🔬 บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อการศึกษาและการวิจัยเท่านั้น
ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ และไม่ใช่การส่งเสริมการใช้จริง
ความคิดเห็น