Masteron หรือ Drostanolone

Masteron (Drostanolone) – ข้อมูลเพื่อการวิจัยด้านเพาะกาย

Masteron หรือชื่อทางเคมีว่า Drostanolone เป็นสเตียรอยด์ในตระกูล DHT (Dihydrotestosterone derivative) ที่ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกเพื่อใช้ในการรักษา โรคมะเร็งเต้านม ในเพศหญิง ก่อนที่จะถูกนำมาศึกษาอย่างกว้างขวางในวงการเพาะกาย โดยเฉพาะใน ช่วง Cutting และ Pre-Contest

ความโดดเด่นของ Masteron คือคุณสมบัติ Anti-Estrogenic ซึ่งช่วยลดผลข้างเคียงจาก Estrogen เช่น การบวมน้ำ และทำให้รูปร่างดูคมชัดมากขึ้น

---

ประเภทของ Masteron ที่นิยมในงานวิจัย

ในตลาดวิจัยเพาะกาย Masteron พบได้ใน 2 ester ที่สำคัญ:

1. Masteron Propionate (Prop) – ออกฤทธิ์สั้น

Half-life ประมาณ ~2 วัน

ต้องใช้ถี่กว่า เช่น วันเว้นวัน (EOD)

เหมาะกับงานวิจัยที่เน้นผลลัพธ์เร็วในระยะสั้น

2. Masteron Enanthate (Enan) – ออกฤทธิ์ยาว

Half-life ประมาณ ~4–5 วัน

ใช้น้อยครั้งกว่า (ประมาณ 2 ครั้ง/สัปดาห์)

เหมาะกับงานวิจัยที่ออกแบบให้มีความคงที่ระยะยาว

---

คุณสมบัติที่น่าสนใจของ Masteron

🔹 ทำหน้าที่ Anti-Estrogen / Anti-Aromatase → ลดการกักเก็บน้ำ และทำให้กล้ามเนื้อดูแห้ง-คมชัด

🔹 ช่วย รักษามวลกล้ามเนื้อ ในช่วง Cutting Phase

🔹 ช่วยเสริมประสิทธิภาพของสเตียรอยด์ตัวอื่น ๆ ใน stack ได้ดี

🔹 เหมาะกับการศึกษาในคนที่ % ไขมันต่ำ (เช่น <10–12%) → ผลลัพธ์จึงเห็นชัดเจนที่สุด

👉 ข้อสังเกต: หากนำไปศึกษาในกลุ่มที่มีไขมันสูง (เช่น 20% ขึ้นไป) ผลลัพธ์ด้านความคมชัดแทบไม่ปรากฏ

---

การประยุกต์ใช้ Masteron ในงานวิจัย

ช่วง Cutting / Pre-Contest Research:

Masteron ถูกเลือกใช้บ่อยที่สุดในช่วงก่อนการแข่งขันเพาะกาย เพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์ด้านรูปร่างที่คมชัดและแห้งลง

ช่วง Bulking Research:

แม้ไม่ค่อยนิยมใช้เพราะไม่ได้ช่วยสร้างกล้ามโดยตรง แต่บางงานวิจัยนำไปใช้เป็น ตัวเสริม (supporting compound) เพื่อลดผลข้างเคียงจาก Estrogen และทำให้ stack ทำงานได้สมดุลมากขึ้น

---

ปริมาณที่มักพบในงานวิจัย

Masteron Propionate: รายงานการศึกษาอยู่ที่ 100 mg วันเว้นวัน (EOD)

Masteron Enanthate: รายงานการศึกษาอยู่ที่ 200 mg สัปดาห์ละ 2 ครั้ง

⚠️ หมายเหตุ: ตัวเลขดังกล่าวมาจากรายงานงานวิจัยที่มีการเผยแพร่ ไม่ใช่คำแนะนำการใช้จริง

---

สรุป

Masteron (Drostanolone) เป็นสเตียรอยด์ในกลุ่ม DHT ที่มีคุณสมบัติ Anti-Estrogenic ช่วยลดการบวมน้ำ และทำให้รูปร่างดูคมชัด เหมาะอย่างยิ่งในการศึกษา ช่วง Cutting และ Pre-Contest แม้จะไม่ใช่ตัวหลักในการสร้างกล้าม แต่สามารถทำหน้าที่เสริมใน stack ได้ดี และให้ผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดเมื่อใช้ในกลุ่มที่มี % ไขมันต่ำ

> 🔬 บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อการศึกษาและการวิจัยเท่านั้น

ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ และไม่ใช่การส่งเสริมให้ใช้จริง