แนวทางการเลือกใช้ Oral AAS (Anabolic Steroids แบบเม็ด) – เพื่อการวิจัย

Oral AAS หรือ Anabolic Steroids แบบเม็ด เป็นหนึ่งในรูปแบบที่ถูกศึกษาอย่างกว้างขวางในงานวิจัยเกี่ยวกับ การเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ความแข็งแรง และการลดไขมัน จุดเด่นคือ สะดวกต่อการใช้ศึกษา (oral administration) แต่ก็มีข้อควรระวัง เช่น ภาระต่อตับ (liver toxicity) ทำให้ในเชิงวิจัยมักมีคำแนะนำว่า ไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 6–8 สัปดาห์ แล้วควรหยุดพักก่อนเริ่มรอบใหม่

---

จุดประสงค์และการเลือก Oral AAS

🔹 Anavar (Oxandrolone)

เหมาะกับการศึกษาในกรณี มีมวลกล้ามเนื้ออยู่แล้ว ต้องการลีน คมชัด ลดไขมัน

เน้น ความแข็งแรง (Strength) โดยไม่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มมาก

ค่า androgenic ต่ำ → ได้รับความนิยมในงานวิจัยที่เกี่ยวกับ ผู้หญิงและผู้สูงอายุ

---

🔹 Winstrol (Stanozolol)

มักถูกศึกษาในช่วงที่ Mass มีเพียงพอแล้ว แต่ขาดความ Hardness / ความคมชัด

ลดการบวมน้ำ (Water Retention) ทำให้กล้ามดูแห้งและคม

งานวิจัยบางส่วนชี้ว่าอาจเพิ่ม ความเสี่ยงต่อข้อต่อและเอ็น

---

🔹 Halotestin (Fluoxymesterone)

ถูกใช้ในเชิงวิจัยเมื่อ มี Mass มากแล้ว และต้องการ Hardness + Strength ที่โหดกว่าเดิม

ให้ผลชัดเจนด้าน พละกำลังและความดุดันในการฝึก

แต่เป็นสารที่มี ความเป็นพิษต่อตับสูง → ไม่เหมาะกับการศึกษาในระยะยาว

---

🔹 Superdrol / Anadrol

ใช้ในการศึกษาที่ต้องการ เพิ่ม Mass และพละกำลังแบบรวดเร็ว

ผลที่ได้คือกล้ามเนื้อที่ดูใหญ่และแน่น แต่ ไม่บวมมากเหมือน Dbol

นิยมใช้ในเชิงทดลอง Bulking ระยะสั้น

---

🔹 Dianabol (Dbol)

มักถูกใช้ในการศึกษาเพื่อ การ Bulk เพิ่มน้ำหนักตัว

ทำให้กล้ามมีลักษณะ ฟู บวม และเต็มเร็ว

ข้อสังเกต: แม้จะเพิ่มน้ำหนักได้ไว แต่ ภาวะบวมน้ำสูง

---

🔹 Turinabol (Tbol)

เป็น Dbol เวอร์ชันพัฒนาปรับปรุง

ลด androgenic effects และ Water Retention เมื่อเทียบกับ Dbol

ให้ผลกลาง ๆ ไม่แรงสุด แต่มี Side Effects น้อยกว่า

---

สรุปเชิงวิจัย

Anavar / Winstrol → เน้น Lean, Cut, คมชัด

Halotestin → เพิ่มความโหดและ Strength ระยะสั้น

Superdrol / Anadrol → Mass + Strength เร็ว แต่ไม่บวมมาก

Dbol → Bulk, ฟู, น้ำหนักขึ้นเร็ว

Tbol → ตัวกลาง ๆ พัฒนาจาก Dbol เพื่อลดผลข้างเคียง

> 🔬 ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการศึกษาและการวิจัยเท่านั้น

ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ และไม่ใช่การส่งเสริมให้ใช้จริง